พระแก้วมรกตกลีบบัวแดง ปี ๒๕๒๙

พระแก้วมรกตเนื้อแดง-หน้า
พระแก้วมรกตเนื้อแดง-หน้า

เป็นพระที่คุณสุธันย์  สุนทรเสวี  สสจ.สมุทรสงคราม จัดสร้างขึ้นเมื่อปี 2529
ขนาดองค์พระ 2.0 x 2.8 ซม.

พระแก้วมรกต พิมพ์กลีบบัวนี้ สถาปนาขึ้นจากผงพระพุทธคุณสำคัญ และมวลสารศักดิ์สิทธิ์จากทั่วประเทศ เช่น  ผงที่เหลือจากการสร้างพระนางพญา สก. และนางพญาอุณาโลม วัดบวรนิเวศ ปี พ.ศ.2519    ซึ่งมวลสารหลักเป็นกระเบื้องหลังคาพระอุโบสถ วัดบวรนิเวศซึ่งกำลังดำเนินการปฏิสังขรณ์อยู่ในปีดังกล่าว   โดยพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวซึ่งขณะเสด็จพระราชดำเนินบำเพ็ญพระราชกุศลที่วัดบวรนิเวศ   ได้ทอดพระเนตรเห็นกองกระเบื้องซึ่งช่างได้ทำการรื้อจากหลังคาพระอุโบสถเพื่อทำการเปลี่ยน    โดยมีพระราชดำริว่า กระเบื้องหลังคาพระอุโบสถนี้น่าจะนำมาทำให้เกิดประโยชน์โดยนำมาบดสร้างพระพิมพ์   เพื่อตอบแทนแก่ผู้ที่บริจาคเงินเพื่อบูรณะพระอาราม   ด้วยเหตุผลที่ว่ากระเบื้องหลังคาพระอุโบสถนี้ย่อมต้องได้รับ พลังบริสุทธิ์จากการสวดมนต์ทำวัตรของพระภิกษุเป็นประจำ   หากเอ่ยชื่อพระมหาเถระที่ได้บำเพ็ญสมณกิจที่พระอารามแห่งนี้แล้วย่อมทำให้เห็นว่ากระเบื้องมวลสารนี้ย่อมต้องไม่ธรรมดาทีเดียว  เช่น สมเด็จพระมหาสมณเจ้ากรมพระยาปวเรศวิริยาลงกรณ์ , สมเด็จพระมหาสมณเจ้ากรมพระยาวชิรญาณวโรรส และ สมเด็จสังฆราชเจ้ากรมหลวงวชิรญาณวงศ์    อีกทั้งในยามที่มีพิธีมหาพุทธภิเษกย่อมต้องอาราธนาพระเถรานุเถระที่สำคัญมาเจริญพระพุทธมนต์ที่พระอุโบสถนี้ด้วยเช่นกัน โดยนัยแห่งความเป็นมงคลนี้    จึงได้มีการบดกระเบื้องดังกล่าวเพื่อมาประกอบเป็นมวลสารสำคัญในการสร้างพระนางพญา ส.ก. และพระนางพญาอุณาโลมในกาลนี้    โดยมวลสารที่เหลือได้นำมาผสมสร้างพระแก้วมรกตเนื้อผงพิมพ์กลีบบัวนี้ด้วย เป็นเหตุให้พระพิมพ์นี้เมื่อเสร็จสิ้นเป็นองค์พระที่สมบูรณ์จึงมีลักษณะสีโทนแดงตามสีของกระเบื้องที่นำมาบดผสมนั้นแล    ไม่ได้เกิดจากสีสังเคราะห์ที่ผมลงไปแต่อย่างใด 
           –มวลสารสำคัญที่เกี่ยวเนื่องกับองค์พระแก้วมรกตมาผสมอีกด้วย เช่น ผงชันเพชรจากองค์มหาบุษบกทองคำที่ประทับองค์พระแก้วมรกต ผงกระเบื้อง โมเสส  กระจก ปูน ของพระอุโบสถ และพระเจดีย์องค์สำคัญในบริเวณวัดพระแก้วที่ได้มาเมื่อคราว บูรณะใหญ่ตอนฉลองกรุงรัตนโกสินทร์ครบ 200 ปี 
           นอกจากผงสำคัญที่กล่าวไว้ในข้างต้นเป็นส่วนผสมหลักของพระแก้วรุ่นนี้ราว 70 เปอร์เซ็นต์แล้ว ผู้สร้างยังได้นำผงพุทธคุณที่ผ่านการอธิษฐานจิตจากพ่อแม่ครูบาอาจารย์ในสายกรรมฐาน  อีกหลายองค์ราว 30 เปอร์เซ็นต์มาผสมรวมกันเพื่อสถาปนาขึ้นเป็นพระแก้วรุ่นนี้ได้ประมาณ  1,300 องค์ โดยเริ่มทำการสร้างตั้งแต่ปี พ.ศ.2529 ก่อนจะนำออกให้บูชากันในปี พ.ศ.2530

 

พระแก้วมรกตเนื้อแดง-หลัง
พระแก้วมรกตเนื้อแดง-หลัง

การปลุกเสก  1.หลวงปู่ดู่  พรหมปัญโญ  วัดสะแก  อยุธยา  โดยหลวงปู่ดู่ได้อธิษฐานจิตให้เป็นพิเศษในวันเกิดของท่าน   ซึ่งเป็นวันวิสาขบูชา ( 11 พฤษภาคม 2530 ) พร้อมกับเหรียญพระแก้วมรกตนิราศภัย  ในขณะปลุกเสกและอธิษฐานจิตท่านได้กล่าวว่า ได้อัญเชิญพุทธบารมีขององค์พระแก้วมรกตมาบรรจุให้  และอัญเชิญพระพุทธเจ้า  พระอริยสงฆ์ทั้งแสนโกฏิจักรวาลมาร่วมปลุกเสก  พระแก้วมรกตนี้คุ้มครองได้ทั้ง 3 โลก
                  2.หลวงปู่ครูบาเจ้าเกษม  เขมโก  สุสานไตรลักษณ์  ลำปาง  โดยหลวงปู่ได้เมตตามนต์ให้ ณ โรงพยาบาลศูนย์ลำปาง  เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม 2530 โดยท่านได้เมตตามนต์ให้เป็นการเจาะจง  โดยท่านได้สั่งให้เปิดกล่องเหรียญออกและได้มอบพวงมาลัยดอกมะลิมาบูชาพระแก้วมรกตทั้งเหรียญและพระผงนี้ด้วย  
                  3.หลวงปู่บุดดา ถาวโร  วัดกลางชูศรีเจริญสุข  สิงห์บุรีฯลฯ

จัดได้ว่าเป้นพระเครื่องดีอีกรุ่นหนึ่งที่หลวงปู่ออกปากการันตีด้วยตนเอง  ( นอกเหนือไปจากเหรียญและพระผงดวงยันต์ดวง  พระเหนือพรหม  พระขุนแผน  และเหรียญเศรษฐี )  ใครมีไว้เสมือนหนึ่งมีพระแก้วมรกตองค์จริงติดตัวเพราะหลวงปู่ดู่ได้ขออัญเชิญพระพุทธบารมีจากองค์จริงมาเต็มๆ

คัดลอกมาจากเวปพุทธานุภาพ

Leave a comment