พิธีหล่อหลวงปู่ทวดที่วัดหน้าพระเมรุ อยุธยา…ตอนที่๒

องค์พ่อจตุคามรามเทพ วัดหน้าพระเมรุ อยุธยา
พอดีพิธีจริงๆเริ่มตอน ๐๙.๓๙ น.ก็เลยไปนั่งทานกาแฟและรอทานมื้อเช้า ต้องนั่งฝึกขันติบารมีอย่างที่พี่อีกคนที่นั่งรอทานเหมือนกัน รอข้างหมูแดงหนึ่งจานตั้งแต่ ๗.๑๕ น.คำแรกที่ได้ทานก็ ๐๘.๑๓ น. กับผู้คนที่เริ่มมาสั่งอาหารมากขึ้น ผมได้เบอร์หนึ่งเพราะมานั่งก่อน อร่อยไหมกับอาหารที่นั่งรอ ไม่อร่อยเลย แต่ทานได้ไหม ทานได้ครับ หมูแดงเย็นๆกับน้ำราดหมูแดงสีเหลืองใสไร้ความข้น กับไข่ต้มฝานบางอีกหนึ่งแผ่น ไม่มีกุนเชียงด้วย เอาซิครับ น่าโมโหไหมก็น่าอยู่หรอก แต่ผมไม่หลงกลหรอกครับ นั่งทานไป พิจารณาความโมโหไปแป๊ปเดียวมันก็หาย นั่งทานไปค่อยๆพิจารณาว่า เราทานเพื่อดำรงขันธ์ให้มีแรงทำงาน ทำความดี ทำบุญอย่างที่ตั้งใจ ค่อยๆเคี้ยวนั่งพิจารณาไปว่า ผมยังโชคดีกว่าคนอื่นๆบนโลกที่ไม่มีกิน โชคดีที่ไม่ต้องทำบาปเพื่อแลกอาหารในแต่ละมื้อ ก่อนทานอาหารทุกมื้อ ผมหลับตาขอบคุณพ่อแม่ที่ลำบากส่งให้ผมเรียนจนมีกินมาทุกวันนี้ ผมขอบคุณครูบาอาจารย์ที่สั่งสอนให้ผมจนได้ดี ผมขอบคุณตัวเองที่รักดีขยันทำงาน ขอบคุณโลกใบนี้ที่ให้ดิน น้ำ อากาศที่ดีต่อการปลูกข้าว ขอบคุณบริษัทที่ผมทำงานที่จ้างผมทำงานจนผมมีกินทุกมื้อ ขอบคุณเกษตรกรที่ลำบากปลูกข้าวทำหลายอย่างกว่าจะมีอาหารมาวางตรงหน้าผม ขอบคุณพ่อค้าแม่ค้าที่ทำอาหารมาจนเป็นอาหารให้ผมทาน….ปกติก่อนทานอาหารมื้อเที่ยงผมมักจะนั่งทำแบบนี้ทุกครั้ง คราวนี้รู้เลยว่า พอนั่งนึกแล้ว ความโมโห ความขัดใจที่ไม่ได้ดั่งใจ มันหายไปหมด แป๊ปเดียวจริงๆครับ เกือบแล้วล่ะครับ….เขาคนนั้นเห็นใครทำความดีไม่ได้ ต้องหาทางขัดขวางให้ไม่ได้บุญเต็มเม็ดเต็มหน่วย แบบทดสอบยังไม่หมดครับ เขายังทดสอบผมอีกหลายคร้งเดี๋ยวจะเล่าให้ฟังครับ แต่ผมไม่ยอมหรอกครับ เมื่อคนอื่นฝากผมมาทำบุญก็ต้องทำในส่วนของคนอื่นให้ได้เต็มที่ ไม่อยากโกงบุญคนอื่นครับ
ทานข้าวเสร็จตอนแปดโมงครึ่งเลยเดินไปไหว้พระพุทธนิมิตในวิหารก่อน เรียกกำลังใจตัวเองให้เต็มที่ก่อนครับ พอดีถ่ายภาพหลวงพ่อพุทธนิมิตแล้วไม่ได้ใช้แฟลช ภาพออกมาดำมากเลยไม่ขอเอามาลงให้ชมครับ อายครับ….ก็เดินลงมาไหว้พ่อที่ศาลาใกล้ๆกันนั้น ก็นั่งไหว้อธิษฐานกับพ่อ จตุคามรามเทพว่า ขอให้สิ่งที่ตั้งใจหวังในวันนี้ได้สำเร็จและเดินทางกลับโดยสวัสดีภาพ

ภาพในพิธีหล่อหลวงปุ่ทวด วัดหน้าพระเมรุ อยุธยา
ในคอผมวันนั้น ก็ห้อยเหรียญองค์พ่อพิธีหลักเมืองประจวบปี ๔๕ที่เคยมีประสบการณ์ไปด้วย แต่ไม่กล้าโชว์เอาเหรียญพ่อใส่ในกระเป๋าเสื้อแทน ช่วงเช้าคนเริ่มเข้ามาเรื่อยๆ จนเต้นท์ดูเล็กไปเลย ผมได้ที่นั่งอยู่ด้านหลังอาสนะ ครูบาทองสุก เป็นแถวที่สาม ไม่กล้าลุกจากที่นั่ง มีสิทธิ์เสียม้านั่งและ ผมคิดว่าผมมาเอาบุญถ้ามัวแต่ลุกไปถายภาพมุมโน้นที มุมนี้ที ใจผมมันไม่นิ่งพอ ยังฝึกมาไม่พอ เลยตัดสินใจว่าเช้านี้ไม่ลุก ขอนั่งรับบุญให้เต็มที่แล้วกัน ภาพที่เอามาลงภาพนี้ขอยืมมาจากเวปถ้ำเมืองนะครับ พอพระเกจิอาจารย์มากันแล้วถึงพิธีหล่อ ก็อากาศช่วงนั้นน่าจะมีแดด แต่ฟ้าบดลงดูร่มไปเกือบยี่สิบสามสิบนาที แล้วถึงเริ่มมีแดดลงมาใหม่ ช่วงเช้านั้นมีพระอีกเก้ารูปมาสวดชยันโตด้วย โดยมีท่านเจ้าคณะจังหวัดอยุธยาเป็นประธานหมู่สงฆ์และมีหลวงพ่อเจ้าอาวาสวัดหน้าพระเมรุมานั่งเป็นอันดับที่สอง ส่วนพระที่นั่งปรกด้านหน้าก็มีหลวงพ่อพูน วัดบ้านแพนและ หลวงพ่อสวัสดิ์ วัดศาลาปูน หลวงตาม้า ครูบานัท ครูบามหาทองสุก และท่านเจ้าอาวาสวัดแค
….ช่วงเช้านั้นคนเยอะมากครับเต็มพิธี ผมก็นั่งอยู่จนถึงสิบเอ็ดโมงก็นิมนต์พระท่านฉันเพล ช่วงนั้นที่เริ่มพิธีหล่อ ผมก็พยายามรวบรวมจิตให้เป็นหนึ่ง ผมใช้วิธียุบหนอพองหนอที่หลวงพ่อจรัลสอน ในกลางท้องขาวสว่างไปหมดเลยครับ ผมยังคิดว่าผมอุปทานไปหรือเปล่าก็นั่งดุไปเรื่อยๆครับ จนเมื่อเช้ากลับมาถึงบ้านตอนตีห้า นั่งเปิดเวปถ้ำเมืองนะ เห็นมีคนบอกว่าเขาก็เห็นว่าสว่างขาวไปหมดเหมือนกัน อย่างนั้นผมคงไม่ได้อุปทานไปแน่ๆ

ภาพวัดญาณเสน อยุธยา
สิบเอ็ดโมงแล้ว ผมเห็นพระท่านลุกไปหมด หันมองด้านขวาคนยืนเข้าคิวทานอาหารผมก็รีบเลยครับ ไปช่วยให้เขาได้บุญครับ ถ้าคนเขาทำอาหารมาเลี้ยงแล้วผมหรือคนร่วมงานไม่ทาน คนทำอาหารได้บุญไม่เต็มส่วน ผมก็ต้องทำหน้าที่ผมต่อครับ ช่วยให้คนทำอาหารได้บุญ ผัดหมี่เจสองจาน ลอดช่องหนึ่ง ขนมชั้นอีกสองชิ้น แตงโมอีกสาม ช่วงที่ทานก็ค่อยนึกถึงคนทำอาหารว่าขอให้เขาได้บุญตามที่ตั้งใจเยอะๆ และแล้วผมก็เกือบพลาดครับ ผมเห็นว่าวัดญาณเสนอยู่ใกล้จะเดินออกไปไหว้รูปหล่อหลวงปู่ชื้นก่อน ก็รีบเดินออกไปถึงวัดญาณเสน เงียบมากครับ พระท่านกำลังออกจากวัดสวนทางกับผมที่เดินเข้ามา เจอแต่น้าที่กำลังทำความสะอาดหน้าวัด น้าเขาก็บอกว่าไปไหว้บนหอสวดมนต์โน้น สภาพวัดดูทรุดโทรมมาก โดยเฉพาะวิหารด้านหลัง ภายในวัดก็โทรมไปตามกาลเวลา ผมก็นุกสะท้อนใจ คิดในใจว่าช่างเหมือนวัดดอยแม่ปั๋งของหลวงปู่แหวนจริงๆ มันคงเป็นกฎไตรลักษณ์ เพียงแต่ผมมาเห็นตอนที่เสื่อมโทรมเท่านั้น ก็ขึ้นไปกราบพระ และรูปหล่อหลวงปู่ชื้น ก็ขอกราบท่าน ขอพรให้ผมได้บุญไปเต็มส่วนและเดินทางกลับอย่างสวัสดิภาพ สำหรับเรื่องวัตถุมงคลของท่าจะเหลือไหม ผมไม่รู้ครับเพราะไม่รู้จะถามใคร ที่วัดขึ้นป้ายว่าวัตถุมงคลให้ติดต่อกุฏิเจ้าอาวาส แต่กุฏิปิดอยู่ ผมก็เลยเดินกลับ มาถึงวัดหน้าพระเมรุเขาไปนั่งที่เต้นท์ต่อ ไม่ทันพระท่านสวดยะถาสัพพี กลับมานั่งที่เดิมคนหายไปกว่าครึ่ง ครูบามหาทองสุกกำลังสวดให้กับลูกศิษย์ที่กำลังขอให้ท่านเสกกระเป๋าตังค์ให้ ท่านสวดนานมากตามแนวพระทางเหนือที่เรียกกันว่า”ปั๋นปอนเมิน”…คือสวดให้พรแบบนานและเอาให้ครบทุกด้าน อย่างนี้ลูกศิษย์ชอบกันนักหนาครับ เวียนเข้ามาหลายรอบ แต่ครูบามหาทองสุกท่านดูไม่เหนื่อยเลย จนประกาศว่าจะมีหล่อหลวงปู่ทวดหน้าตักเก้านิ้วเนื้อนวโลหะพิเศษ หล่อให้เป็นสมบัติของแผ่นดิน ถ้าผมฟังไม่ผิด เหมือนจะนำถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวแล้วจะแจกพระรายการพิเศษ

ภาพในพิธีหล่อหลวงปู่ทวดช่วงบ่าย
ช่วงบ่ายนี้เป็นช่วงที่ผมต้องเจอมารผจญครับเป็น ขันธ์มารครับ ปวดขา ปวดหลัง ปวดเมื่อยตามตัวเหมือนไข้จะขึ้น เพราะตอนเช้านั่งซ้อนมอเตอร์ไซด์ฝ่าลมหนาว ช่วงสายๆนั่งอยู่กลางงาน มีไอร้อนของเตาเผาเข้ามาเป็นระยะๆ นั่งนานหน่อย ผมเริ่มง่วงร้อนหน้าร้อนตา งีบหลับเป็นช่วงๆ งานนี้โดนเล่นงานเสียแล้วครับ ไม่รู้ว่าพี่คนเมื่อเช้าเขาบอกไว้ล่วงหน้าหรืเปล่าครับว่า ฝึกขันติบารมี แล้วผมก็ต้องฝึกจริงๆด้วย หยิบผ้าเย็นที่แจกในรถทัวร์ตอนเช้ามาเช็ดหน้าเช็ดตาหลายรอบมากเลยครับ ตื่นมาเป็นช่วงๆ บ่ายนี้ผมคงสอบตกครับ ใจไม่ค่อยรวม พยายามครับทำเต็มที่ ช่วงบ่ายแดดลงจัดพอสมควร อากาศร้อนของเตาหลอมตีเข้าเต้นท์เป็นระยะๆเลยครับ ตอนบ่ายมีพระเกจิมาอีกสี่รูป หลวงพ่อเอียด วัดไผ่ล้อม,หลวงปู่เฉลิม วัดพระญาติการาม อยุธยา,หลวงปู่อุดม วัดพิชัยสงคราม อยุธยา,พระอาจารย์ติ๋ว วัดมณีชลขัณฑ์ ลพบุรี,และหลวงปู่หวล วัดพุทไธสวรรค์ อยุธยา หลวงตาม้าเมตตาอยู่จนหล่อหลวงปู่ทวดองค์พิเศษเสร็จถึงกลับ ประมาณบ่ายสองกว่าๆ แต่ครูบานัทกับครูบาทองสุข เมตตาอยู่จนเสร็จงาน

ภาพครูบาอาจารย์ที่มานั่งปรกในพิธีหล่อหลวงปู่ทวดวัดหน้าพระเมรุ
พระเกจิดาจารย์ห้ารูปที่มาในช่วงบ่าย…ผมนับผิด ขอโทษด้วยครับ
ภาพแรกสี่รูป เพราะกล้องกวาดภาพไม่ได้หมด

ภาพครูบาอาจารย์ที่มานั่งปรกในพิธีหล่อหลวงปู่ทวดวัดหน้าพระเมรุ
ภาพอีกมุมหนึ่ง รวมเป็นห้ารูปครับ

ภาพอาจารย์ชินพรและคุณป้ามานิดา
หลวงพ่อทั้งห้ารูปเมตตาปรกอยู่นานเหมือนกันครับ นานเกือบชั่วโมงเลยครับ
ผมเห็นอาจารย์ชินพรมาตั้งแต่เช้า ภาพที่เก็บได้เป็นภาพช่วงบ่ายครับ

ภาพคุณเนาว์ นรญาณแห่งพุทธวงศ์ดอทเนต
คุณเนาว์ก็มาครับ เดินไปทั่วงานเลยครับ พร้อมโบกพัดจีบเหมือนพระเอกหนังจีนอย่างชอลิ้วเฮียง ตอนเช้าผมแว๊ปเห็นแฟนพันธุ์แท้พระเกจิมาด้วย จำชื่อไม่ได้ ต้องเปิดกระทู้เก่าๆของผมครับ

คุณหมอฟอร์ดแห่งชมรมคนรักหลวงปู่ทวด แม่ใหญ่ของงานนี้
ตอนเช้าผมเห็นคุณหมอฟอร์ดเดินไปทั่วงานเลย เลยนั่งตั้งจิตในใจไว้ว่า อยากให้คุณหมอฟอร์ดเดินเข้ามาคุยกับผม ก็ประสบผลสำเร็จตอนบ่าย อยู่ๆคุณหมอฟอร์ดก็เดินมาคุยกับลูกศิษย์ติดตามครูบาทองสุข แล้วก็หันมาคุยกับผมเอง ผมก็นะงคุยกันไม่นานเพราะคุณหมอฟอร์ดมีคนรู้จักเยอะ ดูคุณหมอฟอร์ดเหนื่อยๆ ผมก็ไม่ลืมถามถึงรูปหล่อหลวงปู่ทวดวัดสีหยังว่าอยากเห็นรูปจังเลย เห็นมีแต่คนพูดถึง คุณหมอฟอร์ดก็รับปากและผมขอคุณหมอฟอร์ดว่า อยากเห็นหลวงพ่อทวด๒๙นิ้วที่หล่อวันนี้จังเลย แต่ผมต้องรีบกลับบ้านต่างจังหวัดก็เลยรบกวนคุณหมอฟอร์ดช่วยนำรูปมาลงให้ดู ซึ่งกะกันไว้ว่า น่าจะทุบเบ้าออกตอนเย็นหรือพรุ่งนี้เพราะยังน่าจะร้อนอยู่ ซึ่งคุณหมอฟอร็ดก็ตกปากรับคำ แต่ขอว่าคงไม่ใช่คืนนี้เพราะคืนนี้น่าจะสลบหมดแรง …ก็เป็นเรื่องน่าอัศจรรย์ใจเหมือนกันครับ ก็ที่ว่างตรงนั้นที่เดียวพอดีผมก็นั่งมาตั้งแต่เช้าเลยครับ
ภาพนี้ถ่ายติดคุณหมอฟอร์ดตรงด้านซ้ายมือ ไม่กะว่าจะถ่ายติด เพราะโฟกัสที่พระเกจิ คนที่ใส่แว่นนั่นแหละครับ
Leave a Reply